สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

แปลงงบ 54 แจกสส.กันสนั่นมือ

จาก โพสต์ทูเดย์

แม้บรรยากาศการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2554 วงเงินงบ 2.7 ล้านล้านบาท จะดูดุเดือดเลือดพล่าน

โดย...ทีมข่าวการเงิน

 

พรรคฝ่ายค้านและบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะพยายามโชว์ฝีปากเพื่อกระชากใจประชาชนที่ติดตามการทำงานให้เห็นว่า “ข้านี้มีกึ๋น”

แต่ในความเป็นจริงนั้นการแสดงฝีปาก โชว์สีหน้าให้ถมึงทึงนั้นเสมือนเป็นการแสดงยี่เกเท่านั้น

เพราะในท้ายที่สุดงบประมาณแบบขาดดุลที่วางรายได้สุทธิไว้ที่ 1.65 ล้านล้านบาท เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 4.2 แสนล้านบาท ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ ประมาณ 2554 ได้มีการปรับลดงบใน 28 หน่วยงานลง 3.34 หมื่นล้านบาท จะต้องผ่านรัฐสภาแน่นอน

แถมอาจได้เห็นเรื่องราวแปลกที่ สส.ของพรรคฝ่ายค้านอาจแหกโผโหวตให้ผ่าน

สาเหตุที่ต้องโหวตให้ผ่านนั้นอาจจะมาจากหลายสาเหตุ

หนึ่ง เพราะงบประมาณประจำปีนั้นจำเป็นกับบรรดานักเลือกตั้งที่จำต้องนำไปใช้ในการหาเสียง

สอง เพราะพรรครัฐบาลนั้นมีเสียงมากกว่าพรรคฝ่ายค้าน

แต่ทั้งสองประการนั้นอาจมีมูลเหตุจูงใจน้อยกว่าสาเหตุประการที่สาม

เมื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2554 ที่มีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้มีการปรับลดงบประมาณในแต่ละกระทรวงลง ได้เม็เงินประมาณ 4 หมื่นล้านบาท

ทางคณะกรรมาธิการฯ ได้เปิดโอกาสให้แต่ละกระทรวงเสนอโครงการเข้ามาใหม่ ซึ่งทางคณะกรรมาธิการฯ ได้อนุมัติไปรวมแล้วทั้งสิ้น 8,000 ล้านบาท

จึงเหลืองบอยู่ประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท ที่ตามปกติรัฐบาลจะต้องผลักดันเข้าไปใหม่

ทว่า คณะกรรมาธิการฯ ชุดนี้กลับเปิดโอกาสให้ สส.ได้แปรญัตติเข้ามาทุกคน ในรูปของการเสนอโครงการต่างๆ ในกระทรวงต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่ของตัวเอง

ข้อมูลลึกแต่ไม่ลับชี้โพรงออกมาว่า สส.ส่วนใหญ่ก็แปรเข้ามาได้เฉลี่ยคนละ 30-40 ล้านบาท

คิดเป็นเงินทั้งสิ้นไม่มากไม่น้อย แค่ 1.92 หมื่นล้านบาท ที่คณะกรรมาธิการฯ แปลงกายแจกออกไปให้กับบรรดาสมาชิกผู้ทรงเกียรติได้ใช้จ่ายตามอัธยาศัย

ส่วนเงินที่เหลืออีกร่วม 1 หมื่นล้านบาทนั้น ได้จัดสรรให้แก่สำนักนายกรัฐมนตรีฝังไว้ในงบกลางหรืองบเร่งด่วนที่จะนำไปใช้ ตามความประสงค์
งานนี้เฉลี่ยแล้ว สส.แต่ละคนจะได้คนละ 2540 ล้านบาท แล้วแต่ใครจะขยันวิ่งเต้น

สส.บางคนที่มีความเขี้ยวมากๆ ก็จะวิ่งหนักหน่อย สามารถดันงบเศษๆ ที่เหลือไปให้พื้นที่ตัวเองได้เพิ่มขึ้นมา

บางคนได้สูงถึง 50 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น สส.จากต่างจังหวัด

ขณะที่ สส.ใน กทม. แม้จะอยากได้งบเพิ่มขึ้น แต่พื้นที่ไม่เอื้ออำนวยให้ได้ตามที่ต้องการ ก็จะใช้วิธีฝากผ่านไปยังงบพัฒนาการเคหะแห่งชาติ หรืองบการพัฒนาระบบน้ำ หรือไม่ก็ฝากพักไว้กับรัฐมนตรีในหลายกระทรวง

การแปลงกายผันงบรอบนี้ไม่ได้มีวงจำกัดแคบ หากแต่อยู่ในวงกว้างเปิดเผย

สส.หลายคนได้มีการขายสิทธิงบที่แปลงออกมาให้แก่ สส.คนอื่นไป

สส.กทม.บางคนได้งบมาแล้วไม่รู้จะทำอะไร เพราะที่ได้มาเป็นโครงการเกี่ยวกับแหล่งน้ำ ทำถนน ก็เอาไปเสนอขายให้แก่ สส.ที่ต้องการงบ

ขณะที่ตัวเองจะได้รับส่วนแบ่งคืนจากงบประมาณโดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์

กรณีของขาใหญ่ในพรรคฝ่ายค้านที่เสียงดังน่าจะเป็นตัวอย่าง เป็น สส.ฝ่ายค้านในจังหวัดหนึ่งได้สิทธิพิเศษในฐานะคนคุมเกมมา 450 ล้านบาท ล้วนแล้วแต่เป็นงบขุดคลอง สร้างถนน แต่ไม่อยากให้บรรดา สส.ในพรรคเหม็นหน้าหรือด่าเอา ก็นำไปฝากไว้กับ สส.ในจังหวัดหนึ่งในบริเวณชายแดน

หรือ สส.บางคนได้งบมาก็ขายโครงการออกไปให้กับเพื่อน สส.อีกพรรคหนึ่งที่มีเครือข่ายสส.ที่รับซื้อโครงการมาก็จะจัดหาคนของตัวเอง มารับเหมาเสร็จสรรพแบบกินรวบ แล้วคืนเป็นรูปเงินสด 2030% ของงบที่ได้มาให้แก่ สส.ที่ขายสิทธินั้น

เข้าข่ายลักษณะของ “งบบวม” หรืองบกระจุกตัวอยู่ในบางกระทรวงอย่างไม่มีเหตุผล เหมือนที่บรรดา สส.บางคนออกมาขย่มรัฐบาล

นอกเหนือจากมีการแปลงงบไปฝากฝังกับเพื่อน สส.แล้ว นักการเมืองกลุ่มหนึ่งพิสมัยการดำเนินการของนักการเมืองผู้คร่ำหวอดย่านถนน จรัญสนิทวงศ์ที่ได้รับการจัดสรรแบ่งปันไป 650 ล้านบาท

นั่นคือมีการทำในรูปแบบของโครงการพัฒนาจังหวัด ผ่านงบในกรมหลักๆ ที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น ถนนปลอดฝุ่นของกรมทางหลวงชนบท หรืองบพัฒนาองค์กรส่วนท้องถิ่นของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย หรือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมทรัพยากรน้ำ

แม้รูปแบบการกระทำดังกล่าวจะสุ่มเสี่ยงต่อการเลี่ยงรัฐธรรมนูญที่บัญญัติ ห้ามมิให้จัดทำงบพัฒนา สส.เหมือนในอดีต แต่ สส.ส่วนใหญ่ต่างปิดปากเงียบ ไม่กล้าจะออกมาวิพากษ์วิจารณ์หรือแสดงความเห็นกันมากนัก เพราะกลัวจะถูกตำหนิจากเพื่อน สส.

อีกทั้งอาจจะถูกตรวจสอบว่าอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญด้วย แต่นี่คือความจริงในรัฐสภาไทยที่ไม่สามารถนำมือเดียวมาปิดฟ้าได้

ประเด็นต่อมาที่ต้องวิเคราะห์คือ เมื่องบจำนวนกว่า 1.9 หมื่นล้านบาท ถูกจัดสรรลงไปในมือ สส.แล้วจะไปพักอย่างไรเพื่อจะได้นำออกมาใช้ให้หมด โดยไม่ต้องโดนพรรคร่วมหักคอในภายหลังได้

ตัวชี้โพรงได้ชัดคือฝังโครงการลงไปในโครงการด้านครุภัณฑ์ ที่ดิน สิ่งก่อสร้าง

โปรดพิจารณางบจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ของกระทรวงกลาโหมที่ตั้งงบไว้ 4 หมื่นล้านบาท ถูกปรับลดลงไปในส่วนครุภัณฑ์ 2,212 ล้านบาท และถูกปรับลดงบสิ่งก่อสร้าง 232 ล้านบาท ปัจจุบันถูกฝังกลับลงไปเรียบร้อย

กระทรวงสาธารณสุข ที่ตั้งงบไว้ 1.46 หมื่นล้านบาท ถูกปรับลดด้านครุภัณฑ์ไป 932 ล้านบาท ปรับลดงบก่อสร้างไป 1,056 ล้านบาท ตอนนี้กลับเข้ามาใหม่เรียบร้อย

กระทรวงคมนาคม ถูกปรับลดด้านครุภัณฑ์ไป 28 ล้านบาท สิ่งก่อสร้าง 926 ล้านบาท รวมปรับลด 954 ล้านบาท เงินดังกล่าวถูกแทรกเข้ามาอยู่ในรายการ

งบกรมทางหลวงที่ตั้งไว้ 3.99 หมื่นล้านบาท ที่ผ่านมาถูกปรับลดไป 610 ล้านบาท ขณะนี้มาอีกแล้วครับท่าน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งงบไว้ 5,583 ล้านบาท ถูกปรับลดลงไป 802 ล้านบาท ปัจจุบันส่วนเกินที่ถูกตัดออกไปได้แปลงกายกลับมาตอนไหน คนอื่นอาจจะไม่รู้

แต่ สส.ในสภาต่างรับรู้...

อย่าแปลกใจที่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย แกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 ว่า ไม่มีปัญหาแน่นอน และสมาชิกพรรคเห็นว่าเป็นหน้าที่ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล และพร้อมที่จะสนับสนุนงบประมาณทุกคน

และอย่าแปลกใจที่นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า 25 เสียงของพรรค ตัดคนที่เป็นรัฐมนตรีออก 2 เสียง เหลือ 23 เสียง พร้อมโหวตผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 โดยมีการสั่ง สส.ให้เข้าประชุมทั้ง 3 วัน ห้ามทิ้งภารกิจยิ่งใหญ่นี้

ดังนั้น ไม่ว่าพรรคฝ่ายค้านจะดาหน้าขย่มอย่างไร งบที่ถูกแปลงกายออกไปซื้อใจ สส.เพื่อรองรับการเลือกตั้งก็ผ่านสภาแน่นอน

Tags : แปลง งบ 54 แจกสส. สนั่นมือ

view