จากประชาชาติธุรกิจ
บิสเนส อินไซเดอร์ รายงานโดยอ้างอิงผลวิเคราะห์ของบริษัท เทเวนตี้โฟร์ เซเว่น วอลล์ สตรีต ซึ่งจัด 10 อันดับบริษัทที่เสี่ยงธุรกิจไปไม่รอดในปี 2015
โดยธุรกิจที่มีแนวโน้มไม่รอดสูงสุดทั้ง 10 อันดับ มีดังนี้
1. "ลูลูเลมอน" (Lululemon)
แบรนด์กางเกงโยคะที่มีแนวโน้มไม่รอด เพราะที่ผ่านมามีการเรียกสินค้าในตลาดคืนจำนวน 17% หลังจากนั้น ซีอีโอของบริษัทก็ลงจากตำแหน่ง นอกจากนี้ หุ้นของบริษัทยังตกลง 50% จากช่วงที่ขึ้นสูงสุดเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2556 ส่วนรายได้สุทธิก็ตกลงจาก 47 ล้านดอลลาร์ มาอยู่ที่ 19 ล้านดอลลาร์
2. "ไดเร็กทีวี" (DirecTV)
ผู้ให้บริการดาวเทียมซึ่งมีแนวโน้มว่า "เอที แอนด์ ที" (AT&T) วางแผนจะซื้อไดเร็กทีวีในปีนี้ ด้วยมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ รายงานข่าวระบุว่า เอที แอนด์ ที ควรทำให้แน่ใจว่า การซื้อกิจการครั้งนี้จะไม่ทำให้ผู้บริโภคและคู่แข่งในตลาดเจ็บตัว
3. "ฮิลล์ไชร์ แบรนด์" (Hillshire Brands)
แบรนด์อาหารแปรรูปจากผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ บริษัทนี้เพิ่งขยายกิจการด้วยการซื้อบริษัท "พินาเคิล ฟู้ดส์" (Pinnacle Foods) เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี่เอง
4. "ซินกา" (Zynga)
เป็นบริษัทที่ผลิตเกมฟาร์มวิลล์ โดยก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊กสนใจบริษัทนี้อย่างมาก แต่เมื่อซินกาไม่สามารถผลิตเกมที่ทำให้ฮิตได้อีก เฟซบุ๊กจึงไม่ทำธุรกิจร่วมกันอีกต่อไป อีกทั้ง คนเล่นเกมผ่านเฟซบุ๊กก็ตื่นเต้นกับเกมอย่าง แคนดี้ ครัช ที่ผลิตโดยบริษัทคิง ดิจิตอล ผลิตมากกว่า
5. "อลาสก้า แอร์ไลนส์" (Alaska Airlines)
เป็นหนึ่งในสายการบินที่ยังอยู่ในธุรกิจด้วยตนเอง และไม่ได้อยู่ในเครือข่ายบริษัทใหญ่ๆ อย่างเดลต้า และยูไนเต็ด ที่ผ่านมา อลาสก้า แอร์ไลนส์ เป็นที่รู้จักกันว่ามีบริการดีเยี่ยม
6. "รัซเซลล์ สโตเวอร์" (Russell Stover)
เป็นบริษัทผลิตช็อกโกแลตและลูกกวาดขนาดใหญ่อันดับ 3 ของอเมริกา แต่กำลังจะถูกบริษัท "ลินด์ท แอนด์ สปรังลี" (Lindt & Sprungli ) ผู้ผลิตช็อกโกแลตสวิสเซอร์แลนด์ซื้อ โดยคาดว่าดีลนี้จะเสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคม - กันยายน ปีนี้
7. "ชัตเตอร์ฟลาย" (Shutterfly)
บริษัทอัดรูปถ่ายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด แต่พฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันไม่มีใครต้องการปริ๊นท์รูปอีกแล้ว จึงมีแนวโน้มว่า ชัตเตอร์ฟลายจะถูกควบรวมกิจการจากบริษัทอย่างอะเมซอน หรือแอปเปิ้่ล
8. "ไทม์ วอเนอร์ เคเบิล" (Time Warner Cable)
เป็นบริษัทเคเบิลทีวีที่กำลังจะถูก "คอมแคส" (Comcast) บริษัทเคเบิลทีวีที่ใหญ่อีกแห่งของอเมริกาด้วยมูลค่า 45,000 ล้านดอลลาร์ โดยหากทั้ง 2 บริษัทรวมกันจะกลายเป็นบริษัทขนาดยักษ์ที่ครอบครองผู้บริโภคในเครือกว่า 30 ล้านราย การควบรวมกิจการครั้งนี้เป็นที่กังวลว่า บริษัทนี้จะกลายเป็นผู้ควบคุมตลาดเคเบิลทีวีถึง 1 ใน 3 ของสหรัฐ
9. "แบล็กเบอร์รี่" (BlackBerry)
ไม่น่าจะไปรอด เพราะมีคู่แข่งที่แข็งแกร่งอย่างไอโฟน ที่ผ่านมา ครั้งหนึ่ง แบล็กเบอร์รี่เคยมีส่วนแบ่งการตลาดสมาร์ทดฟนในโลกสูงถึง 19.5% แต่ขณะนี้มีส่วนแบ่งตลาดเพียง 1% เท่านั้น โดยเดือนมิถุนายน บริษัทดังกล่าวได้รายงานว่ามียอดขายโทรศัพท์ตกลง 76% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
10. "แอโรโพสเทล" (Aeropostale)
แบรนด์เสื้อผ้าวัยรุ่น ที่มีเสื้อผ้าแนวสปอร์ต ทะมัดทะแมง แต่กลับไม่เป็นที่นิยมของวัยรุ่นแล้ว มรีรายงานว่า บริษัทนี้รายได้ตกจาก 12% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์เสื้อผ้าอื่นๆ ที่วัยรุ่นไม่ได้นิยมมากนัก เช่น อะเบอร์ครอมบี้ แอนด์ ฟิช และ อเมริกัน อีเกิล อีกด้วย เพียงแต่ แอโรโพสเทล อยู่ในสภาพแย่กว่า ทั้งนี้ เนื่องจากแบรนด์ดังกล่าวถูกตีตลาดจากร้านเสื้อผ้าฟาสต์แฟชั่น อย่างแบรนด์ เอช แอนด์ เอ็ม หรือ ฟอร์เอเวอร์ ทเวนตี้วัน ซึ่งดึงดูดลูกค้าวัยรุ่นมากกว่า เนื่องจากราคาถูกกว่า เทรนด์แฟชั่นมาเร็วกว่า
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน