จาก โพสต์ทูเดย์
ซีเอ็นเอ็น เสนอสกู๊ปพิเศษ 10 อุปนิสัยการใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนที่ผู้ใช้สมควรหลีกเลี่ยง
ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนเริ่มกลายสภาพอัพเกรดสถานะประหนึ่ง ปัจจัยที่ 5 ของการดำรงชีวิตของประชากรเกือบค่อนโลกในปัจจุบัน ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใด เมื่อไม่ว่าจะเดินทางไปอยู่ส่วนไหนของโลก ภาพที่คุ้นชินและคุ้นตาก็คือภาพคนควักสมาร์ทโฟนขึ้นมาสัมผัสหน้าจอกันอย่าง เพลิดเพลินสนุกสนาน หรือติดต่องานอย่างเคร่งเครียด หรือคุยธุระปะปังต่างๆ
งานนี้ ทีมผู้สื่อข่าวเทคโนโลยี ของสถานีโทรทัศน์ข่าวซีเอ็นเอ็น เลยเสนอรายงานพิเศษผ่านทางเว็บไซต์ของสถานี ผ่านการสำรวจแบบเจาะลึกจนได้ 10 อุปนิสัยยอดแย่ของการใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่ผู้ใช้งานสมควรหลีกเลี่ยงให้ ห่างไกล
เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง และให้เกียรติต่อคนรอบข้าง โดยซีเอ็นเอ็นเตือนว่าหากยังทำพฤติกรรมเหล่านี้อยู่ละก็ กรุณาหยุดโดยด่วน
1)เมาแล้วทวีต, ส่งข้อความ, อินสตาแกรม ฯลฯ เหตุผลง่ายก็คือ มั่นใจแค่ไหนว่าข้อความที่ส่งไปจะไม่สะกดผิด ตกหล่น จนทำให้ความหมายหรือความเข้าใจคลาดเคลื่อน กระทั่งผู้ได้ข้อความต้องถามเพื่อนคนข้างๆ ว่าข้อความที่ส่งมาหมายถึงอะไร ต้องการอะไรกันแน่ ขณะเดียวกัน ก็ควรจะคิดได้เองว่าสมควรให้ใครต่อใครเห็นภาพเมาปลิ้น เมาเละ ของตนเองหรือไม่ หรือควรเก็บไว้ให้คนแปลกหน้าในบาร์รับรู้ไว้ก็เพียงพอ
2) เล่นสนุกกับสมาร์ทโฟนแทบจะทุกขณะที่ว่าง สำหรับใครที่มีพฤติกรรมประเภทว่างเป็นไม่ได้ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาใช้ ซีเอ็นเอ็นได้ยกคำกล่าวของออสติน คลีออน นักเขียนรายหนึ่งที่กล่าวว่า คนเราจำเป็นต้องมีห้วงขณะเวลาที่จะบำเรอความคิดสร้างสรรค์ของตนเอง เป็นเวลาที่เราจะตัดการสื่อสารจากภายนอกเพื่อจะเกิดไอเดียแจ่มๆ เท่ากับว่า ถ้ามัวแต่พะวงถึงการเชื่อมต่อกับโลกผ่านทางสมาร์ทโฟนอยู่ตลอด แล้วอารมณ์สุนทรีย์จะเกิดขึ้นตอนไหน
3) คร่ำครวญดรามาให้โลกเห็น ทุกคนบนโลกล้วนสารพัดปัญหาคับอกคับใจเพียงพอกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น เลิกโอดครวญถึงความโหดร้าย ไม่ยุติธรรมบนโลกใบนี้ ยอมรับให้ได้เสียทีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสัจธรรมที่จะคงอยู่ต่อไป ไม่มีใครแคร์หรือใส่ใจ หรือถ้ามี อย่างน้อย คนเหล่านั้นก็อาจแค่รอหัวเราะเพราะเห็นเป็นเรื่องขบขัน
4) กลัวเกินเหตุ กลัวขึ้นสมองที่จะใช้โทรศัพท์ สืบเนื่องจากการทื่สมาร์ทโฟนทำให้ช่องทางการสื่อสารมีให้เลือกมากขึ้น จึงส่งผลให้ทางเลือกในการใช้โทรศัพท์พูดคุยกันลดความนิยมลงเรื่อยๆ ซึ่งบางครั้งก็ส่งผลร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างกัน ดังนั้น ยกโทรศัพท์และกดเบอร์เพื่อคุยกันซะ
5) มาไม่ทันงานคอนเสิร์ตหรือการแสดงต่างๆ เพราะมัวแต่ยุ่งกับการถ่ายรูป ปล่อยให้สมาร์ทโฟนดังระหว่างการเล่น และควงสมาร์ทโฟนแกว่งไปมาระหว่างรับฟังรับชมคอนเสิร์ต เหตุผลคงไม่จำเป็นต้องบอกว่าเพราะอะไร โดยซีเอ็นเอ็นกล่าวสั้นๆ แต่เพียงว่า สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับงานคอนเสิร์ตที่เกิดขึ้นในช่วงยุกก่อนที่เทคโนโลยีจะ ก้าวหน้า และสมควรจะต้องดีที่สุดต่อไปในอนาคตก็คือ การที่ผู้ชมรับชมอย่างตั้งใจและใส่ใจ
6) ส่งข้อความหรือภาพลามกอนาจาร หวังว่าคดีตัวอย่างที่เกี่ยวกับภาพหลุดทั้งหลายที่เกิดขึ้นกับคนดัง เซเลบ ดารา หรือนักการเมืองคงพอจะใช้เป็นเหตุผลได้เพียงพอแล้ว
7) เปลี่ยนเพื่อนรักให้กลายเป็นศัตรูด้วยการบันทึกวีดีโอชวนขายหน้า งานนี้ นอกจากจะทำให้โกรธขึ้งจนแทบมองหน้ากันไม่ติดแล้ว ดีไม่ดีอาจไม่จบด้วยดี เพราะน่าจะมีมหกรรมเอาคืนเกิดขึ้นได้ง่าย
8) ใช้สมาร์ทโฟนยามอารมณ์พลุ่งพล่าน ปุถุชนมักทำอะไรที่คาดไม่ถึงได้เสมอขณะที่กำลังโมโหโกรธา ซึ่งบางครั้งก็เป็นเรื่องงี่เง่าแทบไม่น่าให้อภัย ดังนั้นถ้าไม่อยากเสียใจภายหลัง อย่าใช้สมาร์ทโฟนยามกำลังเหวี่ยงวีน
9) เดินไปพิมพ์ข้อความไป อะไรก็ตามที่เร่งมากอาจรอได้สักเล็กน้อย เพื่อให้สามารถหาที่พักจัดการพิมพ์ข้อความให้เสร็จ หรือถ้ารีบมากนักก็กดเบอร์โทรออกซะก็หมดเรื่อง ไม่เช่นนั้นก็อาจไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยของตัวคุณเอง
10) ใช้สมาร์ทโฟนในห้องน้ำ อย่า อย่าทำเด็ดขาด
สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน