ไม่มีคอร์รัปชันใด ที่ ขรก.ไม่เอี่ยว..
สิรินาฏ ศิริสุนทร
จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
"ไม่มีคอร์รัปชันใดที่เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่มีเอี่ยว" อาจจะดูเป็นคำกล่าวที่ให้ร้ายมากเกินไป
แม้จะยอมรับว่าข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่รัฐที่ดีก็มีจำนวนมาก
เรามักจะด่านักการเมืองเลว หาผลประโยชน์ แต่เราลืมมองไปว่า เกือบทุกขบวนการทุจริตมักจะมีข้าราชการเป็นต้นทาง
จะบอกว่าข้าราชการไทยไม่เข้มแข็งพอหรือชอบทำตัวเป็นเบี้ยล่างผู้มีอำนาจก็คงจะถูก เพราะหลายกรณีเรามักจะเห็น ข้าราชการตรงไปตรงมากับคนจนเสมอๆ ต่างกับการแสดงออกต่อผู้มีอำนาจ ที่มี "อาการพินอบพิเทา" ก้มหัว กุมเป้า แล้วบอกว่า "ได้ครับนาย"
น่าเสียดาย...ที่แม้สำนึกในการปกป้องทรัพยากรของชาติก็ยังมีน้อย เช่นกรณีล่าสุดการรุกป่าเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขานาคเกิด บริเวณหาดฟรีดอม ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ที่สามารถตัดพื้นที่เขตป่าสงวนไปออกเป็นเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. บางแปลงถึงขั้นออกเป็นโฉนดได้ทั้งๆ ที่อยู่ในเขตป่าสงวนฯ โซนซี
เรื่องคงดำเนินต่อไปหากไม่มีคนร้องเรียนตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย. 2553 และมีการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ แต่มีความพยายามเพราะพื้นที่สวยงามติดภูเขาและหาดทราย
แน่นอนการตรวจสอบครั้งนั้นพบว่ามีเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ในพื้นที่กันที่ดินทั้งสองแปลงออกจากเขตป่าสงวนแห่งชาติเขานาค โดยมีระดับผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรฯในส่วนกลางช่วยแปลภาพถ่ายทางดาวเทียมสนับสนุนให้เป็นป่าเสื่อมโทรมมีร่องรอยการทำเกษตรกรรมเพื่อกันออกจากพื้นที่ป่า
สวนทางกับความจริงของการตรวจสอบคือสภาพพื้นที่มีความลาดชันเกิน 35 มีสภาพป่าสมบูรณ์ และไม่พบร่องรอยการทำเกษตรกรรมตามที่ผู้กล่าวอ้างมาขอสิทธิการครอบครองได้
การตรวจสอบเรื่องราวดังกล่าวหายเงียบไปกระทั่งมีผู้ร้องเรียนขึ้นมาอีกรอบ กระทั่งทำให้ นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แต่งตั้ง นายชำนาญ เอกวัฒนโชติกูร ผู้ตรวจราชการ ทส. เป็นประธานสอบข้อเท็จจริง
ได้แต่หวังว่าการตรวจสอบปัญหาที่ดินทั้ง 4 แปลงของภูเก็ตและพังงา จะสามารถสาวถึงตัวคนทำผิดและอยู่เบื้องหลังการบังคับให้เจ้าหน้าที่รัฐกล้ากันพื้นที่ป่าสงวนฯไปออกเอกสารสิทธิเพราะแน่นอนว่าผู้อยู่เบื้องหลังคงมีทั้งอำนาจเงินและอิทธิพลสูง
จึงต้องเชียร์ "ปลัดโชติ" ให้ตรวจสอบถึงที่สุด เพราะที่ผ่านมากรณีการทุจริตเอาที่ดินของรัฐไปออกเอกสารสิทธิแม้จะชัดเจนว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมขบวนการแต่สุดท้ายไม่เคยเอาผิดกับคนเหล่านั้นได้เลยหรือแม้แต่การเพิกถอนเอกสารสิทธิของกรมที่ดินก็มีน้อยมาก
แตกต่างกับคนจนที่ไร้ที่ดินทำกินที่การดำเนินคดีมักจะถึงที่สุดเสมอเช่นกรณีปี 2554 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาจำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีที่นายสุแก้ว ฟุงฟู กับพวกรวม 10 คน เกษตรกรบ้านแพะใต้ อำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน ข้อหาบุกรุกที่ดินของบริษัท อินทนนท์การเกษตร บริษัทเอกชนซึ่งมีโฉนดที่ดินครอบคลุมพื้นที่หลายหมู่บ้าน
ทั้งๆ ที่ ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ที่ชาวบ้านในบ้านเพาะใต้ บ้านท่าหลุก บ้านศรีเตี้ย บ้านท่ากอม่วง ใช้ประโยชน์ทำกินร่วมกัน จนปี 2533 แต่มีการนำออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินและถูกปล่อยทิ้งร้างไม่ทำประโยชน์
ปี 2540 ชาวบ้านซึ่งไม่มีที่ดินทำกินได้รวมตัวเข้าทำประโยชน์ โดยจัดที่ดินเพื่อทำการเกษตรเพียงครอบครัวละ 1 ไร่ 2 งาน แต่ผลที่ตามมาคือ การถูกฟ้องร้อง และปัจจุบันหลายคนยังอยู่ในเรือนจำ
สำนักงานบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
