“ปู” ยัน ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน แค่ฟังความเห็นนักธุรกิจ
จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
“ยิ่งลักษณ์” ยอมเปิดปาก “ว.5 โฟร์ซีซั่นส์” ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน อ้างเฉยไปแบบเปิดเผยรู้กันทั้งเมือง เพื่อฟังข้อคิดเห็นนักธุรกิจ พร้อมดิ่งขึ้นเครื่องไปมาเลเซีย พบพิรุธถึงสนามบินก่อนเวลา คาดเตรียมการหลบหน้าสื่อ
วันนี้ (20 ก.พ.) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยอมให้สัมภาษณ์รายละเอียดเป็นครั้งแรก ถึงการเดินทางไปพบนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รวมทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน ผู้บริหารแสนสิริกรุ๊ป ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ก่อนเดินทางไปเยือนสหพันธรัฐมาเลเซียอย่างเป็นทางการว่า “ต้องเรียนว่าเรื่องไม่มีอะไร และดิฉันเองก็ไม่เคยบอกว่าเราจะพูดไม่ตรงกัน สำหรับกรณีนี้จริงๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สื่อก็ทราบกันโดยทั่วไปว่าเราก็ไปโดยไปเปิดเผย และยืนยันว่าไม่มีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ก็อยากขอความร่วมมือ อยากวอนให้ดูว่าจริงๆ แล้วมันก็มีหลายคนที่อยากจะให้ข้อคิดเห็นโดยไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน และวันนี้เรายังมีภารกิจอย่างอื่นที่จะทำอีกมาก ดิฉันเองก็ไป ทุกคนก็ทราบกันดี ก็ยืนยันเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนไม่มี เรื่องส่วนตัวก็ไม่มี”
เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามจะสอบถามเพิ่มเติมแต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้หันหน้าหนีโดยไม่ตอบคำถามใดๆ อีก ก่อนที่จะเดินเข้าไปในตัวอาคารผู้โดยสารขาออกทันที
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ในการเดินทางครั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์และคณะได้เดินทางมาถึงท่าอาศยานสุวรรณภูมิก่อนกำหนดเวลา มากกว่า 30 นาที จากปกติที่จะเดินทางมาถึงก่อนเวลาขึ้นเครื่องราว 10-15 นาทีเท่านั้น โดยในวันนี้กำหนดการเครื่องออกในเวลา 11.20 น. แต่กลับเดินทางมาถึงในเวลา 10.40 น. ทำให้ผู้สื่อข่าวหลายสำนักมาไม่ทันการให้สัมภาษณ์ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์อาจพยายามในการหลบหน้าผู้สื่อข่าวที่เตรียมตั้งประเด็นคำถาม เกี่ยวกับภารกิจส่วนตัวที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ แต่ก็มีผู้สื่อข่าวบางส่วนที่มาดักรอล่วงหน้า จึงต้องให้สัมภาษณ์ในที่สุด
“ศิริโชค” กวักมือเรียก “ปู” ฟ้องหมิ่นฯ โฟร์ซีซั่นส์ พิสูจน์ปมชั้น 7
“ศิริโชค” ท้า “ปู” ฟ้องหมิ่นฯ ประมาท ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ เปิดภาพซีซีทีวีพิสูจน์ความจริงไปทำอะไรที่ชั้น 7 สอนมวย “หมวดเจี๊ยบ” เปิดใจกว้างในฐานะเป็นบุคคลสาธารณะ อย่ามัวอ้างสิทธิสตรีเล่นการเมือง ขู่มีข้อมูลแฉกลับเพียบ
วันนี้ (20 ก.พ.) นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีพรรคเพื่อไทยจะไปตรวจสอบชั้น 7 ของโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ เพื่อพิสูจน์ว่าบริเวณชั้น 7 ไม่มีห้องพัก พร้อมเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ขอขมาที่เปิดประเด็นนี้ว่า หากจะไปพิสูจน์กันตอนนี้ก็คาดว่าคงช้าไปแล้ว เพราะเรื่องนี้ผ่านมากว่า 10 วันแล้ว และคงเสียเวลาไปเปล่าๆ ทำไมเพิ่งคิดได้ อย่างไรก็ตาม ตนก็ยืนยันเช่นกันว่าจากการตรวจสอบเว็บไซต์ของโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ก่อนหน้า นี้ ก็พบว่ามีทั้งห้องพักส่วนตัวห้องประชุม และเอ็กซ์คลูซีฟคลับด้วย ทั้งนี้ หากพิสูจน์ได้ว่าข้อเท็จจริงไม่เป็นอย่างที่พรรคเพื่อไทยพูด จะมาขอโทษตนหรือไม่ ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าจะฟ้องตนและรายการสายล่อฟ้านั้นตนยินดี และอยากให้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ไปที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อขอลายเซ็นให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โปรดได้ฟ้องตนและรายการสายล่อฟ้าด้วยตัวเอง จะได้ถือเป็นโอกาสดีที่จะใช้สิทธิพิสูจน์ภาพวงจรปิดซีซีทีวี จะได้ทราบว่าข้อเท็จจริงเรื่องนี้เป็นอย่างไร
“ที่ผ่านมาพูดไปคนละทิศละทาง ดังนั้น หลักฐานทางวิทยาศาสตร์คือภาพวงจรปิด เพื่อให้รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นบ้างที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ หากจะฟ้องผมก็ยินดี แต่อยากให้นายกฯ ฟ้องด้วยตัวเอง ดีที่สุดคือการเอาภาพวงจรปิดมาตรวจสอบตั้งแต่นายกฯ เข้าโรงแรม และไปเจรจากับใคร” นายศิริโชคกล่าว และว่า ส่วนกรณีที่มีการจะเกทับข้อมูลส่วนตัวกลับนั้น ตนไม่สนใจ เพราะไม่มีภรรยา ไม่เคยจดทะเบียนสมรส จะไปที่ไหนอย่างไรก็สามารถทำได้
ส่วนกรณีที่ ร.ท.(หญิง) สุนิสา เลิศภควัต หรือหมวดเจี๊ยบ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมากล่าวหาว่าพวกตนจัดรายการสายล่อฟ้า พูดดูหมิ่นนายกฯ นั้น นายศิริโชคกล่าวว่า ยินดี ขอให้ฟ้องจริง อย่าเพียงฟ้องแก้เกี้ยว และขอให้ฟ้องที่ศาลเลยเพื่อความรวดเร็ว อย่าไปฟ้องที่สถานีตำรวจ หรือกองบังคับการกองปราบปราม ทั้งนี้ ตนมีข้อมูลมากที่เกี่ยวกับ ร.ท.(หญิง) สุนิสา มีทั้งข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ข้อมูลที่ศาลเคยวินิจฉัยว่า ร.ท.(หญิง) สุนิสาขาดงานจริง จนต้องยกฟ้อง เมื่อครั้ง ร.ท.(หญิง) สุนิสา ฟ้องหมิ่นประมาทสื่อเครือเอเอสทีวี และสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 5 ก็ส่งตัวกลับไปที่กองทัพบกจริง
“คุณสุนิสาอย่ามาใช้การบีบน้ำตาเรียกร้องความเป็นสตรี มันไม่ใช่แล้ว เพราะคุณเสนอตัวมาทำงานการเมือง เป็นบุคคลสาธารณะ เวลาคุณสุนิสาออกทีวีก็ขอให้ตอบตรงๆ อย่าเบี่ยงประเด็นไปที่สิทธิสตรี เพราะผมไม่ได้ถามเรื่องนั้น เวลาด่าผม ผมยังทนฟังได้ แต่เวลาโดนบ้างกลับบอกเป็นสิทธิสตรี” นายศิริโชคกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าภาพวงจรปิด และบันทึกต่างๆ ของโรงแรมจะถูกลบทิ้งไปแล้วหรือไม่ นายศิริโชคกล่าวว่า โดยปกติของโรมแรมบันทึกการเข้าพักห้องของลูกค้า หรือภาพจากกล้องวงจรนั้น เวลามีใครไปขอดูก็ต้องเซ็นเอกสารเป็นหลักฐาน ถ้ามีการฟ้องร้องในศาลก็ต้องนำภาพวงจรปิดตรงนั้น ซึ่งเชื่อว่าทางโรงแรมน่าจะเก็บบันทึกภาพนั้นไว้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลชุดนี้จะใช้อำนาจที่มีไปลบภาพดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งหากลบไปแล้วก็สามารถกู้กลับมาได้ ดังนั้น ถ้าเปิดโอกาสให้พวกตนไปตรวจสอบดู ยืนยันว่าตนสามารถกู้ข้อมูลดังกล่าวกลับมาได้
สำนักงานบัญชีและธุรกิจ พี.เอ.แอล.,สำนักงานสอบบัญชี พีแอนด์อี
ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,จดทะเบียนธุรกิจ,วางระบบบัญชี