สำนัก งานบัญชีในฝัน(ร้าย) (3)
PAL0433
คราวที่ผ่านมา ได้เล่าประเภทสำนักงานบัญชีไป ๓ ประเภทแล้ว วันนี้เอาไปอีกซักสองประเภท พอหอมปากหอมคอจ๊ะ
4.สำนักงานบัญชี ผู้แทน
บางครั้งที่เราต้องการหาสำนักงานบัญชี เมื่อเราติดต่อสำนักงานบัญชีแล้วเราจะเห็นว่าสำนักงานบัญชีจะมาพบพร้อมภาพความประทับใจหลายๆอย่างที่ดูดีเท่าที่เขาจะทำได้ แต่หลังจากที่เราตกลงให้ทำบัญชีให้แล้วซิ สำนักงานบัญชีบางสำนักงานจะลืมตัวนึกว่าตัวเองเป็นส.ส. หลังรับงานเสร็จเรียบร้อย กิจการจะไม่ได้เห็นหน้าคนทำบัญชีอีกเลย ยกเว้นพนักงานรับส่งเอกสาร รับส่งเอกสารไปๆ มาๆ แล้วก็จบกัน บัญชีก็ไม่ทำให้ บางแห่งงบการเงินยังไม่ยื่นให้ ร้อยวันพันปี ไม่เคยเห็นหน้าจะพบตัวทีก็ยากเย็น ต้องฝ่าด่านหลายด่านกว่าจะได้พบได้คุย พอได้พบได้คุยก็จะบอกปัดไปง่ายๆอย่างเสียไม่ได้ จะเห็นกันทีจะคุยกันยาวก็ตอนจะขอขึ้นค่าบริการ แต่ก็ไม่บ่อยเพราะมีสารพัดค่าที่จะเรียกเก็บได้เป็นระยะๆ
แล้วทำไมถึงต้องเจอคนทำบัญชี ?
เจ้าของกิจการไม่ต้องการเจอคนทำบัญชีไม่เป็นไรหรอกครับ แต่คนทำบัญชีที่ไม่ต้องการเจอเจ้าของกิจการหรือไม่เคยเข้าไปเยี่ยมชมกิจการเลยซิแปลก เวลาทำบัญชีโดยที่ไม่รู้ว่าเราทำอะไรลงไปมันก็ไม่ใช่วิสัยของนักบัญชีที่ดี
ถ้าเราเปรียบสำนักงานบัญชีเป็นนักบัญชีที่เราไว้ใจได้เหมือนกับผู้จัดการฝ่ายบัญชีหรือสมุห์บัญขี นักบัญชีประเภทนี้ต้องการความเข้าใจในงานหรือกิจกรรมการทำธุรกิจของลูกค้าเพื่อที่จะทำบัญชีให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงทางธุรกิจที่เกิดขึ้น ธุรกิจประเภทเดียวกันเหมือนกัน ธุรกรรมต่างๆในการดำเนินธุรกิจไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน แล้วแต่ว่าผู้บริหารจะคิดกันอย่างไร มีเทคนิคในการจัดการกับบริษัทตัวเองอย่างไร ก็ฝีมือคนเรามันต่างกันได้ ความคิดทางธุรกิจ ขบวนการทางธุรกิจ แผนงานก็ต่างกัน แล้วบัญชีมันจะทำเหมือนกันได้อย่างไร บัญชีก็ต้องปรับไปตามวิธีการในการดำเนินธุรกิจ ส่วนเรื่องหลักการบัญชีจะเป็นธุรกิจอะไรก็หลักการบัญชีเดียวกัน
เพราะฉะนั้นคำถามแปลกๆของเจ้าของกิจการเวลาจ้างสำนักงานบัญชีว่าคุณเคยทำบัญชีของกิจการประเภทนั้นประเภทนี้หรือเปล่า ฟังแล้วมันแปลกๆ มันเป็นคำถามที่ฟังดูแล้วมันฉลาดพิกล เพราะไม่ว่าคุณจะทำกิจการอะไร อย่างไร ถ้าเป็นนักบัญชีที่ดีและเข้าใจในการทำบัญชีนั้นไม่จำเป็นว่าคุณเคยทำมาหรือเปล่า แต่ต้องถามว่าที่ผ่านมาคุณทำบัญชีอย่างไร (ให้ไปดูบทความเรื่อง "วิธีการเลือกสำนักงานบัญชี") ก็ต้องถามความต้องการของเจ้าของกิจการว่าคุณต้องการสำนักงานบัญชีอย่างไร เป็นเหมือนผู้จัดการบัญชีให้คุณหรือเป็นแค่คนลงบัญชีตามเอกสารที่คุณส่งไป แล้วก็ปิดงบมาให้คุณดูเพื่อเสียภาษีตอนปลายปี
ฉะนั้น สำนักงานบางสำนักงาน เวลาทำบัญชีก็เหมือนกันทำด้วยปาก ไม่ค่อยได้เห็นงาน ปากบอกทำบัญชีให้แต่ทำหรือเปล่าไม่รู้ ....
สำนักงานบัญชี นะตัวเอง ไม่ใช่แม่ค้าละเลงขนมเบื้อง ..... อิ อิ
5.สำนักงานบัญชี คลังสินค้า
สำนักงานบัญชีบางสำนักงาน ทำตัวเหมือนเป็นคลังสินค้าหรือโกดังเก็บเอกสาร เมื่อรับงานบัญชีแล้วไม่รู้ว่าทำบัญชีให้ลูกค้าหรือเปล่า เพราะไม่เคยส่งสมุดบัญชีหรือเอกสารที่ส่งไปบันทึกบัญชี เอกสารกิจการก็ส่งกันทุกเดือนส่งไปแล้วไม่เคยได้กลับมาเลย เจ้าของกิจการก็ดีใจไม่ต้องเก็บเอกสารให้เปลืองที่ของบริษัท พอโดนหมายเรียกตรวจสอบจากกรมสรรพากรทีลมจะจับ ทั้งบัญชีและเอกสารที่จะส่งให้เจ้าหน้าที่สรรพากรตรวจไม่มี บางรายไปกันใหญ่เอกสารที่ส่งให้ไปก็ไม่อยู่ จะให้อยู่ได้อย่างไรในเมื่อ บางสำนักงานรับงานเป็นร้อยราย ต่อเนื่องมาเป็นสิบๆปี รับเอกสารมาจากลูกค้าทุกเดือน ไม่เคยส่งสมุดบัญชีที่ต้องทำตามกฎหมายหรือเอกสารคืนลูกค้าเลย แค่คิดก็คิดไม่ออกแล้วว่าจะเอาเอกสารไปเก็บกันไว้ที่ไหน นอกจากสำนักงานบัญชีจะมีที่เก็บเอกสารเป็นโกดังแบบโกดังเก็บสินค้า
แล้วอย่างนี้ลองนึกภาพดูว่า เอกสารของลูกค้าจะไปอยู่ที่ไหน บัญชีของลูกค้าจะได้ทำหรือเปล่า เวลาติดต่อกลับไปหาสำนักงานบัญชีที่มักบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวจัดการให้ ถึงเวลาจริงๆหาตัวไม่เจอ ปิดมือถือ โทรไปไม่ว่าง เจ้าของกิจการต้องไปพบสรรพากรเอง แบบตัวเปล่าๆ อะไรก็ไม่มีแม้กระทั่งใบเสร็จการเสียภาษี แล้วอย่างนี้จะไปเหลือหรือ
เราเคยเจอกรณีอย่างนี้กับคนรู้จัก สามีเป็นผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่ง บริษัทเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัย รับจัดหาคนงานทำให้กับบริษัทต่างชาติ ภรรยาเป็นกรรมการผู้จัดการ สำนักงานบัญชีที่ให้ทำบัญชีให้เป็นเพื่อนเจ้าของ เก็บค่าทำบัญชีถูกแสนถูกเดือนละ 2000 บาทเอกสารค่าใช้จ่ายเดือนละ 4-5 แฟ้มช้างขนาด 3 นิ้ว เอกสารอื่นรวมกันก็ประมาณ 8-10 แฟ้ม สำนักงานบัญชีมีความกันเองสูงมาก น่ารัก ตอนไม่มีปัญหาพี่มาให้ตลอด
ก็จะไม่ให้มาได้อย่างไรเจ้าของไม่รู้เรื่องสำนักงานบัญชีก็ขายบิลให้ ถึงเวลาจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มก็มาเก็บด้วยตัวเอง หัก ภาษีณ.ที่จ่ายก็มาด้วยตัวเอง เอกสารก็มาขนเอง คนอะไรดีไปโม๊ด
แต่พอโดนหมายเรียกโทรตามเป็นสิบครั้งไม่รับสาย เจ้าของก็สงสัยว่าทำไมคนดีของฉันถึงเป็นอย่างนี้ โทรมาขอให้เข้าไปช่วยดูให้หน่อย พอถามเอาเดี๋ยวเดียวจะสลบ เงินค่าภาษีหัก ณ.ที่จ่าย เงินค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม เงินประกันสังคม ที่เก็บไปไม่ได้นำส่ง บิลที่บอกว่าไปซื้อมาใส่ให้เก็บเงินไปแล้วก็ไม่มี เอกสารที่ส่งให้ไม่อยู่เลย งบการเงินไม่ได้นำส่ง ภาษีเงินได้ไม่ได้ยื่น บัญชีไม่ได้ทำ ที่ทำครั้งสุดท้ายเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา และคนที่ทำเป็นเด็กทำงาน SIDELINE ถามไปถามมาค่าทำบัญชี ทั้งปี 7000 บาท มันก็ได้แค่นั้นซิ แต่พอไปบวกเงินที่จ่ายให้สำนักงานบัญชี นั้นจ่ายไปทั้งค่าบิล ค่าภาษี ค่าประกันสังคม ค่าทำบัญชี ปิดบัญชีและอีกหลายๆค่า รวมแล้วตลอด 5 ปี จ่ายไปตกประมาณ 2 ล้านกว่าบาทเอง ....จิ๊บ จิ๊บ
เมื่อหมดปัญหาจะตามหาสำนักงานบัญชี เรากับเจ้าของจึงไปพบเจ้าหน้าที่สรรพากรเองโดนประเมินขั้นต้นประมาณเกือบ 20 ล้านบาทไม่รวมเบี้ยปรับเงินเพิ่ม ก็เล่นไม่มีอะไรซักอย่าง แม้กระทั่งเอกสารของบริษัท สุดท้ายเจ้าของต้องตัดสินใจอาศัยช่องทางพิเศษทางสามีที่เป็นนายตำรวจใหญ่ บังเอิญเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เจอเจ้าหน้าที่สรรพากรดี เรียกค่าบริการ ค่าผ่านการทางพิเศษเล็กน้อยเพื่ออำนวยความสะดวกแค่ล้านเดียว ความที่สามีเป็นตำรวจไม่คิดว่าเขาจะกล้าหรือว่าเคยชินก็ไม่รู้ ก็จ่ายให้ไป สุดท้ายเรื่องก็ไม่จบ ต้องจ่ายตามจริงที่เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรที่ทำการตรวจสอบประเมินมา แต่เจ้าหน้าที่ดำเนินเรื่องอนุโลมให้ทำบัญชีและทำเอกสารใหม่ให้พิจารณาและเก็บภาษีตามที่ควรจะเป็น เราต้องเข้าไปช่วยจัดการเรื่องบัญชีและเจรจากับเจ้าหน้าที่ ตกลงจ่ายไปประมาณ 2 ล้านบาทค่าภาษีบวกเบี้ยปรับเงินเพิ่มแล้วจ่ายประมาณ 3 ล้านบาท แฮปปี้เอ็นดิ้ง โดยไม่ได้จ่ายอะไรให้เจ้าหน้าที่ที่ทำเรื่องแม้แต่บาทเดียว ส่วนเจ้าของไปให้เป็นการขอบคุณภายหลังเรื่องเรียบร้อยหรือเปล่าไม่รู้ (ให้ไปอ่านเรื่อง "เจ้าของกิจการควรไปพบสรรพากรเองหรือไม่")
ส่วนค่าผ่านทางพิเศษที่จ่ายไปให้กับสรรพกรใจดีคนนั้นล้านกว่าบาทเป็นการจ่ายฟรีไม่มีผลงานใดๆ สามีเจ้าของก็เลยลุยผู้ชายใจดีคนนั้นซะกระจาย แหะ แหะ...เกือบจะนามสกุลใกล้เคียง คุณสุภาพ เนชั่นเก่าซะแหล่ว
ก็เพิ่งเห็นครั้งนั้นแหละ .......... ตำรวจใหญ่ถูกไถ่
นี้เป็นอุทธาหรณ์ว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตำรวจกล้ายังมีสรรพากรชั่วบางคน
ความคิดเห็น