จาก โพสต์ทูเดย์
ฤกษ์ นื้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความเท่าเทียมทุกฝ่ายควรเร่งสร้างความปรองดองให้ เร็วที่สุด ก่อนจะเกิดเหตุรุนแรงถึงขั้นวินาศในช่วงเดือนมีนาคม 54....
โดย...ธนวัฒน์ เพ็ชรล่อเหลียน
อิทธิพลจากวงโคจรของดวงอาทิตย์และเส้นศูนย์สูตรของโลกที่บรรจบกันพอดี เป๊ะ ในเวลา 11.03 น. ของวันที่ 23 ก.ย. ทำให้เกิดช่วงกลางวันและกลางคืน ยาวเท่ากัน
สังคม “แม่มด” เป็นต้องอลหม่าน เพราะดันตรงกับวันพิเศษที่เรียกกันว่า วันแซบบัท (Sabbat Day) จึงต้องจัดพิธีบูชาจิตวิญญาณ (Spirit) กันยกใหญ่ โดยเฉพาะฤกษ์ที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง หรือ Autumn Equinox ซึ่งเหมาะแก่การเปลี่ยนแปลงทิศทางของโชคชะตา ความรุ่งเรือง และการสร้างความสมดุลให้กับคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้กับชีวิตของตัวเอง
ราชบัณฑิตย์บัญญัติไว้ว่า “ศารทวิษุวัต” ที่ตำแหน่งปรากฏของดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านจุดอิควิน็อกซ์ ซึ่งเป็นจุดที่เส้นศูนย์สูตรฟ้าตัดกับเส้นศูนย์สูตรโลก ยังให้เกิดช่วงเวลาของ “กลางวัน – กลางคืน” ยาวเท่ากัน ฤกษ์เดียวกันนี้ถูกอธิบายผ่านความรู้ทางดาราศาสตร์ว่าคือ "วันอิควินอกซ์" (Equinox) เป็นจุดเริ่มต้นของฤดูใบไม้ร่วง
ภาพประกอบข่าว
“ปีหนึ่งจะมีฤกษ์นี้ 2 ครั้ง แต่รอบนี้พิเศษคือตรงกับช่วงที่ดาวพระเสาร์โคจรอยู่ ซึ่งถือเป็นลางบอกเหตุ” อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา นายกสมาคมโหรศาสตร์ ทำนาย
นักโหรศาสตร์ชื่อดัง อธิบายว่า ดาวพระเสาร์หมายถึงกลุ่มคนรากหญ้า ตอนนี้กำลังโคจรเป็นศัตรูต่อดวงเมือง ในขณะที่ดาวอาทิตย์ ตัวแทนของผู้บริหาร ผู้มีอำนาจ กำลังอ่อนแสง ส่วนดาวพฤหัสบดีที่ปกติจะส่งเสริมดวงเมือง แต่บัดนี้กลับเข้าเคราะห์ สรุปความได้ว่า อาจจะเกิดการลุกฮือของชาวไร่ชาวนา มีการเดินขบวนเรียกร้องถามหาความเท่าเทียม ส่วนผู้มีความรู้ความสามารถจะไม่สามารถยับยั้งอะไรได้
“ฤกษ์นื้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความเท่าเทียม เพราะแม้ช่วงกลางวันยังเท่ากับช่วงกลางคืน สังคมก็จำเป็นต้องเท่ากัน ทุกฝ่ายควรเร่งสร้างความปรองดองให้เร็วที่สุด ก่อนจะเกิดเหตุรุนแรงถึงขั้นวินาศในช่วงเดือนมีนาคม 54”อาจารย์อรรถวิโรจน์ทายทัก
อาจารย์ด้านโหรศาสตร์รายนี้ บอกอีกว่า ช่วงเดือนกันยายน – พฤศจิกายน มักจะเกิดเหตุรุนแรงทั้งใน และนอกประเทศ เนื่องจากอิทธิพลของดาวอาทิตย์ โดยช่วงเดือนมีนาคม พ.ศ.2554 จะเป็นจุดดับที่สุด คือรุนแรงที่สุด และจะมีพระเอกขี่ม้าขาวมาคลายวิกฤตประมาณเมษายน ทุกอย่างจะผลัดใบไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
แตกต่างกับ ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหรศาสตร์นานาชาติ ซึ่งเรียกฤกษ์นี้ว่า “วันจุดเสมอภาค” สามารถใช้พยากรณ์อนาคตอันใกล้คือ 3 เดือนข้างหน้า ตั้งแต่ 23 ก.ย. – 23 ธ.ค. ได้
อาจารย์ภิญโญ ตรวจตำแหน่งดวงดาวในวันจุดเสมอภาค พบดาวอาทิตย์โคจรในราศีกันย์กุมกับดาวพระเสาร์ ดาวพฤหัสบดีกุมดาวจันทร์และดาวมฤตยู ในราศีมีน นอกจากนี้วันที่ 23 ก.ย.ยังตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ มีผลให้ดาวจันทร์และดาวพฤหัสบดีเพ็ญ พยากรณ์ในภาพรวมเกิดสิ่งที่ดี
ดาวพฤหัสบดีเป็นตัวแทนของวงการกฎหมาย คดีความ การศึกษา แพทย์ ศาสนา เมื่อเพ็ญก็จะได้รับความสนใจและผลักดันให้พัฒนาขึ้น จะปรากฏกิจการประชุมสาธารณะในเรื่องเหล่านี้ ส่วนดาวจันทร์เป็นตัวแทนของประชาชน ดังนั้นเมื่อเพ็ญ จิตใจ อารมณณ์ ความรู้สึก จะร่มเย็น โดยประชาชนส่วนใหญ่ หรือคนจน จะได้รับการดูแลมากขึ้น
“แต่ดาวมฤตยู ซึ่งหมายถึงเหตุอาเพศก็เพ็ญด้วยเช่นกัน ตรงนี้น่าคิด เพราะจะทำให้เกิดเรื่องร้ายขึ้น จะมีปฏิบัติการลึกลับซับซ้อน โดยเฉพาะในแวดวงกฎหมาย ศาล และเรือนจำ จะมีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบต่างๆ แต่หลังจากเกิดเหตุวุ่นวายแล้ว วงการเหล่านี้จะได้รับการพัฒนาบูรณะยิ่งขึ้น”นายกสมาคมฯ ตั้งข้อสังเกตในการทำนาย
นักโหรศาสตร์คนเดียวกันนี้ กล่าวต่ออีกว่า จากตำแหน่งการสาดแสงของดาวอาทิตย์จะกระทบต่อดาวเสาร์ในภพอริ แปลความได้ว่าการบริหารราชการแผ่นดิน วงการปกครอง ตำรวจ คณะรัฐมนตรี ที่ยังมีปัญหาไม่ลงตัวอยู่นั้น จะค่อยๆ ดีขึ้น และควรรอจนถึงสิ้นเดือน ดาวพุธเทพแห่งการสื่อสารจะเคลื่อนที่สู่ราศีกันย์ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น การเจรจาจะสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในหรือนอกประเทศ
“สรุปคือระยะเวลาต่อจากนี้ถึงสิ้นปี เป็นช่วงแห่งการสะสางปัญหาหรืองานเก่าที่ค้างคาอยู่ ซึ่งจะเป็นไปด้วยดี ภาพรวมจะดีขึ้น”โหรภิญโญสรุปความ
