สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เมื่อไหร่การเมืองไทยสงบ คำตอบอยู่ที่ดวงเมือง

เมื่อไหร่การเมืองไทยสงบ คำตอบอยู่ที่ดวงเมือง

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์




การเมืองไทยช่วงนี้มีอาการแปลก ๆ เปลือกนอกผิวหน้าสงบราบเรียบ แต่ลึกลงไปมีคลื่นมีแรงกดดันก่อตัวอยู่มากมาย คล้ายความสงบก่อนพายุใหญ่
ads not by this site     

อันที่จริง ความไร้เสถียรภาพทางการเมืองหลายปีที่ผ่านมา ก็เกี่ยวข้องกับคนแดนไกลที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร โดยตลอด


แล้วเมื่อไหร่การเมืองไทยจะสงบ สามารถเดินออกจากวังนของคุณทักษิณ กันเสียที


ในทางโหราศาสตร์ คำตอบนี้ถูก“กำหนด” ไว้ล่วงหน้าแล้วตั้งแต่ 231 ปีก่อน! โดย “ดวงเมือง”


การทำนายดวงเมืองต่างจากทำนายดวงคน ในดวงบุคคล เมื่อผูกดวงกำเนิด (Natal Chart) แล้ว เพียงแค่ตรวจสอบตำแหน่งดาวจร (Transit) เทียบกับดวงกำเนิด ก็ได้ข้อมูลเพียงพอสำหรับทำนายเหตุการณ์ซึ่งถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มอีก ก็สามารถใช้เทคนิคอื่น ๆ ประกอบ เช่น ดวงทินวรรษ (Solar Return) เป็นต้น แต่สำหรับดวงเมือง แค่นี้ไม่เพียงพอ

มีเหตุผล 2 ข้อที่ดวงเมืองต่างจากดวงคน (1) เรื่องราวในชีวิตคนมีแค่ไม่กี่เรื่อง เงิน งาน ครอบครัว สุขภาพ แต่กับประเทศชาติบ้านเมือง เรื่องราวมีไม่จำกัด (2) อายุขัยของคนเรานั้นสั้นเมื่อเทียบกับอายุของบ้านเมือง เทคนิคที่ใช้ทำนายจึงควรแตกต่างกัน

เทคนิคทำนายดวงคนมี “กรอบเวลา” ในการวิเคราะห์เพียงแค่ 1 – 2 ปี ซึ่งเพียงพอ เหมาะสม และหวังผลความแม่นยำได้ดี แต่กรอบเวลาสั้น ๆ แค่นั้นถ้าใช้ทำนายดวงเมือง จะไม่สามารถให้ข้อมูลที่มากพอ ไม่เห็นภาพรวมภาพกว้างของเหตุการณ์และแนวโน้มต่าง ๆ โอกาสผิดพลาดจึงมีสูง

วัฏจักรดวงดาว (Planetary Cycle) คือเทคนิคสำคัญที่โหราจารย์ใช้ทำนายดวงเมือง

วัฏจักร / วงรอบดวงดาวแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ (1) Sidereal Period ครบ 1 รอบเมื่อดาวโคจรกลับมาที่ตำแหน่งเดิมในจักรราศี เช่น 0 องศาราศีเมษ (2) Synodic Period ครบ 1 รอบเมื่อดาว 2 ดวงโคจรกลับมากุมกันอีกครั้ง (เมื่อมองจากโลก) เช่น จันทร์ดับถึงจันทร์ดับครั้งต่อไป

วัฏจักรที่นิยมใช้ทำนายดวงเมืองมี 4 วัฏจักร ได้แก่ 18.6 , 20 , 30 และ 45 ปี ที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือวัฏจักรSynodic20 ปี ที่ชื่อว่า “วัฏจักรพฤหัสเสาร์ (Jupiter-Saturn Cycle)” อันมีจุดเริ่มต้นเมื่อดาวพฤหัสเข้ากุมสนิท (Conjunction) กับดาวเสาร์ ครบรอบ (และเริ่มรอบใหม่) เมื่อทั้งคู่กุมกันครั้งต่อไป

คำทำนายรัตนโกสินทร์ 10 ยุคอันได้แก่ มหากาฬ พันธ์ยักษ์ รักบัณฑิต สนิทธรรม จำแขนขาด ราชโจร นนท์ร้องทุกข์ ยุคทมิฬถิ่นกาขาว ชาววิไลนั้น ท่านอาจารย์ น.พ. ประจวบ วัชรปาณ และท่านอาจารย์ เทพย์ สาริกบุตร ปรมาจารย์โหรรุ่นก่อนได้อธิบายไว้ว่า มาจากหลักการของวัฏจักรพฤหัสเสาร์ 20 ปีนี้เอง

วัฏจักรพฤหัสเสาร์นี้ใช้กันมานานแล้ว ในคัมภีร์On the Great Conjunctions ท่านอาบู มัสซาร์ (Abu Ma’ shar : 787 - 886 AD) โหราจารย์ชาวเปอร์เซีย ผู้ซึ่งนักโหราศาสตร์ชั้นนำชาวตะวันตกยกย่องเป็นPrince of Astrologersก็ได้อธิบายวัฏจักรนี้เอาไว้อย่างละเอียด
วัฏจักร 20 ปีนี้ให้ข้อมูลที่มีคุณค่ามากและใช้ทำนายได้ผลดี แต่ถ้าทราบวันเกิดของประเทศหรือรู้ดวงเมืองแล้ว วัฏจักร Sidereal 30 ปีที่ชื่อ “วงรอบดาวเสาร์ (Saturn Return)” อาจให้ผลดียิ่งกว่า

ดวงเมืองไทยถือกำเนิดในวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายนพ.ศ. 2325 เวลา 6:54 น. ที่กรุงเทพฯ มีตำแหน่งดาวเสาร์อยู่ที่ 10 องศา 48 ลิปดาในราศีธนู ดาวเสาร์เป็นดาวเจ้าเรือนกัมมะหรือการเมือง/การปกครอง การใช้วงรอบดาวเสาร์ทำนายการเมืองไทย จึงยิ่งเพิ่มน้ำหนักและความแม่นยำมากขึ้นไปอีก


กุญแจสำคัญในการทำนาย คือ การค้นหาแก่นความหลัก (Major Theme) ของยุค แล้วนำข้อสรุปนั้นมาทำนายทิศทาง แนวโน้ม และความเป็นไปของเหตุการณ์ทั้งหลายต่อไป


วงรอบดาวเสาร์เข้าสู่รอบที่ 7 เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2502 ในวันรุ่งขึ้น จอมพลสฤษดิ์ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 11 จุดกึ่งกลางรอบนี้คือวันที่ 15 กันยายน 2516 (ก่อนเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 เพียง 1 เดือน) สิ้นสุดวงรอบ (และเริ่มรอบใหม่) ในวันที่ 18 ธันวาคม 2531


แก่นความหลักของรอบนี้คือ “ทหารคุมการเมือง” รอบนี้มีนายกฯ 8 คนคือ จอมพลสฤษดิ์ จอมพลถนอม ท่านสัญญา ม.ร.ว. เสนีย์ (2 ครั้ง) ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ท่านธานินทร์ พลเอกเกรียงศักดิ์ และพลเอกเปรม เป็นทหาร 4 พลเรือน 4 แต่อายุรัฐบาลพลเรือนรวมกันแล้ว 3 ปีเท่านั้น หรือแค่ 10 % ของอายุวงรอบ


วงรอบที่ 8 ฟอร์มตัวชัดเจนในวันที่ 4 สิงหาคม 2531 เมื่อพลเอกชาติชายขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 17 จุดกึ่งกลางรอบคือวันที่ 6 กรกฎาคม 2546 ในสมัยนายกฯทักษิณ (ก่อนการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ที่ผู้นำประเทศมหาอำนาจมาประชุมที่ไทยเพียง 3 เดือน)


ทุกครั้งที่เปลี่ยนวงรอบ จะเกิดสัญญาณ (Signal) ที่ชัดเจน นโยบาย "เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า"คือสัญญาณดังกล่าว สนามรบคือพื้นที่ของทหาร สนามการค้าคือพื้นที่ของนักธุรกิจ ดังนั้น แก่นความหลักของวงรอบปัจจุบันคือ “ธุรกิจคุมการเมือง”


จึงไม่น่าแปลกใจที่คุณทักษิณ ซึ่งเป็นนักธุรกิจใหญ่จะก้าวขึ้นมากุมอำนาจสูงสุดทางการเมืองได้อย่างยาวนาน ขณะที่นายกฯฝ่ายทหารกลับจบแบบไม่สวย เช่น พลเอกชาติชายถูกปฏิวัติ พลเอกสุจินดาเกิดพฤษภาทมิฬ พลเอกชวลิตเจอวิกฤติต้มยำกุ้ง รัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ก็มีอายุแค่ปีเดียว อยู่เพื่อรอรัฐธรรมนูญใหม่เท่านั้น


วงรอบที่ 7 มีมูลเหตุจาก “ความกลัว” ของคน ปืนคือเครื่องมือ ทหารคือผู้คุมเครื่องมือนั้น การปฏิวัติรัฐประหารคือรูปธรรมที่ปรากฏ ขณะที่มูลเหตุของวงรอบที่ 8 คือ “ความโลภ” ของคน เงินคือเครื่องมือ นักธุรกิจคือผู้คุมเครื่องมือนั้น นโยบายประชานิยมคือรูปธรรมที่ชัดเจน


สรรพสิ่งทั้งหลายมีเกิด ย่อมมีดับ วัฏฏะเรื่องราวความเป็นไปในโลกก็เช่นเดียวกัน หนีความจริงข้อนี้ไปไม่พ้น วงรอบธุรกิจคุมการเมืองจะสิ้นสุดในวันที่ 28 มกราคม 2561 การเมืองไทยจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

นั่นหมายความว่า อำนาจทั้งหมดของคุณทักษิณมีแต่เสื่อมลง ความพยายามทั้งหลายรังแต่สูญเปล่า หรือกลับทำให้ความเสื่อมนั้นเร่งตัวเร็วขึ้น จนถึงจุดอวสานของวงรอบนั่นเอง


“อวสานทักษิณ” มิใช่จุดสิ้นสุดทางกายภาพ แต่เป็นจุดสิ้นสุดของการคุมอำนาจการเมืองไทย (ทั้งในที่ลับและที่แจ้ง) ของคุณทักษิณต่างหาก


ถึงบรรทัดนี้ ยังเหลือคำถามสำคัญ 2 ข้อ (1) เหลือเวลาอีก 4 ปีกว่าจึงสิ้นสุดวงรอบ ต้องรอนานขนาดนั้นหรือ ? (2) การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ?


คำตอบข้อแรกคือไม่จำเป็น วัฏจักรดาวแบ่งเป็น 2 ภาค ตั้งแต่จุดเริ่มต้นถึงจุดกึ่งกลางวงรอบคือ “ขาขึ้น (Waxing Phase)” เลยจุดกึ่งกลางไปจนสิ้นสุดรอบคือ “ขาลง (Waning Phase)” เมื่อเข้าสู่ขาลง มันก็เสื่อมไปเรื่อย ๆ จนหมดแรงสิ้นอายุขัยไปเอง นี่คือสิ่งที่เปลี่ยนไม่ได้อยู่แล้ว


แต่จุดเปลี่ยนจริง ๆ มาก่อนวงรอบใหม่เสมอ เช่น จุดเปลี่ยนวงรอบที่ 7 คือ การที่จอมพลสฤษดิ์ปฏิวัติรัฐบาลจอมพล ป. และพล.ต.อ. เผ่า เมื่อ 16 กันยายน 2500 เกือบปีครึ่งก่อนเข้าวงรอบจริง หรือการที่พลเอกเปรมยุบสภาเมื่อ 29 เมษายน 2531 ก็คือจุดเปลี่ยนก่อนเข้าวงรอบที่ 8 ฯลฯ


สำหรับคำตอบที่สองก็คือ เกิดด้วยเหตุอันใด ย่อมดับด้วยเหตุอันนั้น มูลเหตุของวงรอบที่ 8 คือความโลภ ความโลภนี้เองที่ผลักดันวงจรให้ดำเนินไป จนในที่สุด ความโลภก็ย้อนกลับมาทำลายตัวมันเอง


นโยบายประชานิยมจากภาครัฐที่มากขึ้นรุนแรงขึ้น สะท้อนถึงความโลภที่เพิ่มพูนขึ้นอย่างมากเช่นกัน ประเทศชาติมีทรัพยากรจำกัด แต่ความโลภของคนไร้ขีดจำกัด ไม่ช้าก็เร็ว สภาพเช่นนี้ต้องพังทลายลง


วิกฤติการเงินการคลังของภาครัฐจึงเป็นผลสุดท้ายที่เลี่ยงไม่ได้ แน่นอน มันย่อมส่งผลกระทบไปถึงภาคเอกชนและครัวเรือน วิกฤติเศรษฐกิจใหญ่ที่รออยู่เบื้องหน้า จะกวาดล้างทำลายทุกอย่าง รวมถึงความโลภให้หายไปจากจิตใจ คนส่วนใหญ่จะได้คิด จุดนั้นคือจุดสิ้นสุดของยุคธุรกิจคุมการเมือง


เมื่อเสาร์จรเข้าราศีพิจิก ตกภพมรณะดวงเมืองและเป็นวินาศกับเสาร์เดิม ขณะที่ราหูจรเข้ากันย์ เป็นอริ ดวงเมืองและเล็งราหูเดิม ขั้นตอนสุดท้ายแห่งการทำลายเชื้อ/มูลเหตุเดิมก็จะมาถึง เพื่อเปิดพื้นที่ให้แก่เมล็ดพันธ์ใหม่ที่จะกลายเป็นมูลเหตุของวงรอบใหม่ต่อไป

ประโยชน์สูงสุดของโหราศาสตร์คือ ทำให้เราเข้าใจกฎ “อนิจจัง” อย่างกระจ่างถ่องแท้และเป็นรูปธรรม สังขารทั้งหลายนั้นไม่เที่ยง ทุกสิ่งต้องเปลี่ยนแปลงไป


ไม่มีใครรอดพ้นไปได้


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : เมื่อไหร่ การเมืองไทย สงบ คำตอบ ดวงเมือง

view